top of page
แหล่งเรียนรู้
อาหารและโภชนาการ
ศูนย์การเรียนรู้อาหารไทย (Thai Food Heritage)
เป็นศูนย์การเรียน เรื่อง ภูมิปัญญาของอาหารไทย จัดโดยกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นอาคาร 2 ชั้นตั้งอยู่ที่ เลขที่ 2014 ซอยอรุณอัมรินทร์ 36 ถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด จังหวัดกรุงเทพมหานคร ชั้นล่างเป็นส่วนประชาสัมพันธ์มุมขายหนังสือที่พิมพ์โดยสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม และจัดจำหน่ายอาหารแปรรูป และ ชั้น 2 เป็นส่วนนิทรรศการ แบ่งออกเป็น 3 โซน ดังนี้
โซนที่ 1 “สุวรรณภูมิ ดินแดนอุดมสมบูรณ์” มีการจัดแสดงนิทรรศการ 3 เรื่อง ดังนี้
1. “แผ่นดินทอง (ทุ่งข้าว ชาวนา)” เกี่ยวกับการปลูกข้าว เครื่องมือ และประเพณีที่เกี่ยวข้องกับการทำนา เครื่องแต่งกายของชาวนา
2. “พระบารมีแผ่ไพศาล โครงการพระราชดำริ” เกี่ยวกับโครงการพระราชดำริของรัชกาลที่ 9 เกี่ยวกับการพัฒนาที่ดินเพื่อทำการเกษตร ซึ่งนำเสนอทั้งในรูปแบบหุ่นจำลอง และสื่อมัลติมีเดียให้ความรู้ผ่านระบบเทคโนโลยีหน้าจอสัมผัส
3. “อาเซียน ศูนย์กลางอาหารโลก” เกี่ยวกับการค้า สินค้าส่งออก และอุตสาหกรรมด้านอาหารของประเทศสมาชิกอาเซียน ที่นำเสนอเป็นอินโฟกราฟิก
โซนที่ 2 “ครบเครื่องครัวไทย” มีการจัดแสดงนิทรรศการ 3 เรื่อง ดังนี้
1. “พระอัจฉริยภาพแห่งความอร่อย” ซึ่งนำเสนอรายละเอียดของหนังสือ เรื่อง “ครัวสระปทุม” ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี โดยนำเสนอเป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบเทคโนโลยีหน้าจอสัมผัส
2. “แหล่งสร้างสรรค์สร้างภูมิปัญญาไทย” เกี่ยวกับวัฒนธรรม ภูมิปัญญา เอกลักษณ์ของอาหารไทย และการถนอมอาหาร แบบจำลองห้องครัวแบบร่วมสมัย และมีมุมเกมทำอาหาร “cooking game” ผ่านระบบเทคโนโลยีหน้าจอสัมผัส
3. “สู่โลกนวัตกรรม” เกี่ยวกับรูปแบบบรรจุภัณฑ์ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของภูมิปัญญาไทยด้วยวิธีการห่อ มัด กลัด และร้อย
โซนที่ 3 “นวัตกรรมอาหารไทยสู่ครัวโลก” มีการจัดแสดงนิทรรศการ 2 เรื่อง ดังนี้
1. “นวัตกรรมแห่งผลผลิตไทย” เกี่ยวกับสถิติการส่งออกอาหาร และผลิตภัณฑ์แปรรูปจากอาหารไทย โดยจัดแสดงข้อมูลทั้งในรูปแบบรูปภาพ สื่ออินโฟกราฟิก สื่อมัลติเมียผ่านระบบเทคโนโลยีหน้าจอสัมผัส และสื่อของจริง
2. “อาหารพันธ์ไทย” เกี่ยวกับสินค้านวัตกรรมอาหารไทยที่โดดเด่น เช่น กล้วยอบสวนผึ้งเสียบไม้ ข้าวต้มมัดแกงเขียวหวาน แยมลูกหยี เค้กทองหยอด ข้าวตังหน้าต้มยำ เป็นต้น โดยจัดแสดงข้อมูลทั้งในรูปแบบสื่อของจริง และสื่อมัลติเมียผ่านระบบเทคโนโลยีหน้าจอสัมผัส
โดยศูนย์การเรียนนี้ เปิดทำการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 – 17.00 น. และสามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ศูนย์สารนิเทศโภชนาการ อมร นนทสุต กรมอนามัย
เป็นศูนย์การเรียนรู้ เรื่อง โภชนาการสุขภาพ ใช้ชื่อว่า ศูนย์สารนิเทศโภชนาการ อมร นนทสุต ซึ่งตั้งอยู่ภายในสำนักโภชนาการ ชั้น 5 ตึกกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 88/22 ม.4 ถนนติวานนท์ ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี โดยเป็นพื้นที่จัดแสดงและให้ความรู้ด้านงานโภชนาการของประเทศไทย นำเสนอประวัติของหน่วยงานและปูชนียบุคคลด้านโภชนาการ วัสดุ – อุปกรณ์ที่ใช้ให้ความรู้เรื่องโภชนาการ สื่อ เอกสารเผยแพร่ และนิทรรศการโภชนาการในยุคต่าง ๆ
โดยศูนย์การเรียนนี้ เปิดทำการในวันและเวลาราชการ สามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และหากต้องการเข้าศึกษา จะต้องดำเนินการประสานกรมอนามัย โดยดำเนินการทำหนังสือเพื่อขอเข้าศึกษาแหล่งเรียนรู้
ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ
เป็นศูนย์การเรียนรู้ เกี่ยวกับการมีสุขภาวะที่ดี ทั้ง 4 มิติ กาย ใจ สังคม และปัญญา ซึ่งภายในอาคาร มีนิทรรศการและจุดเรียนรู้ทางด้านสุขภาพต่าง ๆ ที่ให้บริการประชาชน โดยเป็นนิทรรศการหมุนเวียน ตั้งอยู่ที่อาคารศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ เลขที่ 99/8 ซอยงามดูพลี แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร จังหวัดกรุงเทพมหานคร
โดยศูนย์การเรียนนี้ เปิดทำการในวันจันทร์ถึงวันเสาร์ เวลา 09.00 – 17.00 น. โดยหยุดในวันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ สามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
หลักสูตรส่งเสริมศักยภาพสู่ความเป็นเลิศของนักเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รายวิชาเพิ่มเติมอาหารไทย (E-Book)
เป็นหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง หลักสูตรส่งเสริมศักยภาพสู่ความเป็นเลิศของนักเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รายวิชาเพิ่มเติมอาหารไทย จัดโดยกองส่งเสริมและพัฒนาการจัดการศึกษาท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย โดยแสดงตัวอย่างรายวิชา คำอธิบายรายวิชา และวิธีการประเมินผลการเรียนรู้ของรายวิชาเพิ่มเติมในกลุ่มอาหารไทยสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6
PHOLFOODMAFIA – พลพรรคนักปรุง
เป็นแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ โดยรวบรวมความรู้เกี่ยวกับกลุ่มวิชาอาหารและโภชนาการ ซึ่งนำเสนอความรู้ในรูปแบบภาพ สื่อมัลติมีเดีย วิดีโอสาธิตการประกอบอาหารรายการต่าง ๆ ทั้งอาหารไทย ขนมไทย อาหารนานาชาติ และขนมอบ นอกจากนั้นยังมีตำรับอาหารมาตรฐาน และเกร็ดความรู้ทางด้านอาหารที่น่าสนใจ จัดทำขึ้นโดยพล ตัณฑเสถียร เชฟอาหารไทย แบ่งพื้นที่การเรียนรู้ออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้
1. RECIPES ซึ่งรวบรวมตำรับอาหารต่าง ๆ
2. SHOW ซึ่งรวบรวมวิดีโอสาธิตการทำอาหารต่าง ๆ ทั้งอาหารและขนม รวมทั้งเกร็ดความรู้ทีเกี่ยวข้องกับทางด้านอาหาร เช่น การทำน้ำปูนใส การทำน้ำลอยดอกมะลิ
3. PODCAST ซึ่งรวบรวมความรู้ เกร็ดความรู้ต่าง ๆ เกี่ยวกับอาหาร โดยนำเสนอในรูปแบบคลิปเสียง
4. Good Things ซึ่งรวมรวมเทคนิคการประกอบอาหารต่าง ๆ ผ่านบทความต่าง ๆ เช่น การถอดแกนแอปเปิ้ล ความแตกต่างของน้ำตาล ดื่มน้ำอะไรดี
Maeban – แม่บ้าน
เป็นแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ โดยรวบรวมความรู้เกี่ยวกับกลุ่มวิชาอาหารและโภชนาการ ซึ่งนำเสนอความรู้ในรูปแบบบทความ ภาพ สื่อมัลติมีเดีย วิดีโอสาธิตการประกอบอาหารต่าง ๆ พร้อมบอกวัตถุดิบหรือส่วนผสม วิธีการหรือขั้นตอน จัดทำขึ้นโดยบริษัท แม่บ้าน จำกัด แบ่งพื้นที่การเรียนรู้ออกเป็น 5 ส่วน ดังนี้
1. บทความแนะนำ รวบรวมบทความทางด้านอาหาร และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตภายในบ้าน เช่น เทคนิคการประกอบอาหารต่าง ๆ การเปรียบเทียบความแตกต่างของอาหาร
2. สูตรอาหาร รวบรวมสูตรอาหารต่าง ๆ โดยอธิบายความเป็นมา ลักษณะทางกายภาพ วัตถุดิบหรือส่วนผสม วิธีการหรือขั้นตอนการทำ และเทคนิคในการประกอบอาหาร
3. แม่บ้าน Market รวบรวมแหล่งจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาหาร และ การดำรงชีวิตภายในบ้าน เช่น หนังสือ
4. ข่าวสารและกิจกรรม รวบรวมข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาหาร การท่องเที่ยว และการดำรงชีวิตภายในบ้าน
5. สาระน่ารู้ รวบรวมเกร็ดความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาหาร โภชนาการสุขภาพ และการดำรงชีวิตภายในบ้านผ่านบทความต่าง ๆ
KRUA.CO Food is a Big Deal
เป็นแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ โดยรวบรวมความรู้เกี่ยวกับกลุ่มวิชาอาหารและโภชนาการ ซึ่งนำเสนอความรู้ในรูปแบบบทความ ภาพ สื่อมัลติมีเดีย วิดีโอสาธิตการประกอบอาหารต่าง ๆ พร้อมบอกวัตถุดิบหรือส่วนผสม วิธีการหรือขั้นตอน ซึ่งมีจุดเด่นในการนำเสนอ โดยระบุประเภทของอาหารไว้อย่างชัดเจน นอกจากนั้นยังมีการนำเสนอนิทรรศการอาหารสัญจร โดยจะเปลี่ยนประเด็น การนำเสนอในทุก ๆ เดือน จัดทำขึ้นโดยบริษัท แสงแดด มีเดีย กรุ๊ป จำกัด แบ่งพื้นที่การเรียนรู้ออกเป็น 5 ส่วน ดังนี้
1. Home ส่วนแสดงหน้าหลัก ซึ่งนำเสนอนิทรรศการอาหารสัญจร ตำรับอาหาร วิดีโอสาธิตการทำอาหาร และบทความที่กำลังเป็นกระแส หรือได้รับความนิยม
2. Recipe รวบรวมสูตรอาหารต่าง ๆ โดยอธิบายความเป็นมา ลักษณะทางกายภาพ วัตถุดิบหรือส่วนผสม วิธีการหรือขั้นตอนการทำ และเทคนิคในการประกอบอาหาร ซึ่งมีการบอกปริมาณหรือจำนวนหน่วยบริโภคต่อตำรับอาหาร ถือเป็นจุดเด่นที่สำคัญของแหล่งเรียนรู้
3. Cooking รวบรวมบทความที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาหาร การคำนวณต้นทุน กำไรในการจำหน่ายสินค้าประเภทอาหาร
4. Food Story การนำเสนอเรื่องราวของอาหารผ่านการเล่าเรื่องโดยประเด็นที่กำลังเป็นกระแส หรือการใช้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ในการเดินเรื่อง
5. Video รวบรวมวิดีโอการสาธิตการประกอบอาหาร การนำเสนออาหารในมุมมองต่าง ๆ
whynwhan (เพจอาหาร)
เป็นแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ในรูปแบบเพจ Instagram โดยรวบรวมความรู้เกี่ยวกับกลุ่มวิชาอาหารและโภชนาการ ซึ่งนำเสนอความรู้ในรูปแบบภาพ สื่อมัลติมีเดีย วิดีโอสาธิตการประกอบอาหารต่าง ๆ พร้อมบอกวัตถุดิบหรือส่วนผสม วิธีการหรือขั้นตอน การดัดแปลงและสร้างสรรค์อาหารตามเทศกาล และการสร้างแรงบันดาลใจในการประกอบอาหาร โดยสุรางคนา วงษ์เวชประสิทธิ์ บล็อกเกอร์ทางด้านอาหาร
FoodChoice แอปพลิเคชั่น
เป็นแหล่งเรียนรู้ในรูปแบบแอปพลิเคชั่น ซึ่งนำเสนอข้อมูลโภชนาการ และข้อแนะนำในเชิงสุขภาพที่เกี่ยวกับอาหารในชีวิตประจำวันเพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งในการประกอบการตัดสินใจของผู้บริโภค ในการวางแผนการบริโภคอาหารอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับสุขภาพของตนเอง จัดทำขึ้นโดยหน่วยงานที่เป็นภาคีเครือข่ายอย่างหลากหลาย เช่น กรมอนามัย สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล มูลนิธิส่งเสริมโภชนาการในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีวิธีการใช้งานโดยการแสกนบาร์โค้ดที่บรรจุภัณฑ์ของสินค้าประเภทอาหาร จากนั้นแอปพลิเคชั่นจะแสดงข้อมูลโภชนาการต่าง ๆ เช่น พลังงานต่อหน่วยบริโภค ปริมาณน้ำตาล โซเดียม ไขมัน โปรตีน และยังแสดงข้อมูลของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
พิพิธภัณฑ์จักรเย็บผ้า
เป็นศูนย์การเรียนรู้ เกี่ยวกับจักรเย็บผ้า โดยจัดแสดงจักรเย็บผ้ายุคต่าง ๆ ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และจัดแสดงอุปกรณ์การตัดเย็บผ้าและเครื่องแต่งกาย ซึ่งตั้งอยู่ในศูนย์วัฒนธรรมวิทยา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ เลขที่ 1635 ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร จังหวัดกรุงเทพมหานคร โดยแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 2 นิทรรศการ ดังนี้
ส่วนจัดแสดงที่ 1 “จักรเย็บผ้า”
จัดแสดงเรื่องราวของจักรเย็บผ้าตั้งแต่สมัยอดีตจนถึงปัจจุบัน และแสดงตัวอย่างจักรเย้บผ้าชนิดต่าง ๆ โดยนำเสนอประวัติการใช้งานของจักเย็บผ้าที่มีผลต่อการใช้ชีวิตของคนในประเทศไทย รวมทั้งตัวอย่างจักรเย็บผ้าอายุกว่า 100 ปีที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน เช่น จักรเย็บผ้าขาใยแมงมุม จักรเย็บผ้าขาไม้สัก จักรเย็บผ้าขาเหล็กที่เป็นเส้นตรง จักรเย็บรองเท้า จักรอุตสาหกรรมที่ได้รับบริจาคมาจากรัฐบาลเยอรมัน เพื่อใช้ในการเรียนการสอนในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ส่วนจัดแสดงที่ 2 “อุปกรณ์ในการตัดเย็บเสื้อผ้า”
จัดแสดงเรื่องราวของอุปกรณ์ในการตัดเย็บเสื้อผ้า เช่น เตารีดที่ใช้ความร้อนด้วยถ่านไม้ หลอดด้าย ไม้บรรทัด สายวัด เครื่องวัดชายกระโปรง และอุปกรณ์การสร้างแบบตัด
โดยศูนย์การเรียนนี้ เปิดทำการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.00 – 16.00 น. และสามารถเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เป็นศูนย์การเรียนรู้ เกี่ยวกับสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่หอรัษฎากรพิพัฒน์ ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร จังหวัดกรุงเทพมหานครโดยเป็นพื้นที่จัดแสดงและให้ความรู้ด้านงานสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทย วัสดุ – อุปกรณ์สำหรับการผลิตสิ่งทอ ศูนย์กลางการเก็บรักษาและจัดแสดงผ้าประเภทต่าง ๆ ซึ่งเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาตินิทรรศการชุดไทยพระราชนิยม และการจัดแสดงเสื้อผ้าของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง รวมทั้งยังมีการหมุนเวียนนิทรรศการที่เกี่ยวข้องการสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทย เช่น นิทรรศการผ้าบาติกในพระปิยมหาราช: สายสัมพันธ์สยามและชวา นิทรรศการปัก ถัก ทอ นิทรรศการ "หมู่บ้านศิลปาชีพ: บ้านอีสาน" โดยแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 3 นิทรรศการ ดังนี้
ห้องจัดแสดงที่ 1 “ราชพัสตราจากผ้าไทย”
จัดแสดงฉลองพระองค์ชุดสากลในสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นักออกแบบไทยและต่างชาตินำผ้าไหมไทยมาใช้ในการตัดเย็บ ทำให้ผ้าไทยที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์และเกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง รวมทั้งศิลปวัฒนธรรมด้านการแต่งกายของสตรีไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล
ห้องจัดแสดงที่ 2 “ไทยพระราชนิยม”
จัดแสดงฉลองพระองค์ชุดไทยพระราชนิยมของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ กว่า 30 องค์ ตลอดจนผ้าและเครื่องแต่งกายในราชสำนัก เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพของพระองค์ในการสร้างสรรค์และสืบสานการแต่งกายแบบไทยที่แสดงถึงเอกลักษณ์ไทย และแสดงให้เห็นถึงการผสมผสานธรรมเนียมการแต่งกายของสตรีไทยในราชสำนักสมัยโบราณให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน และเป็นต้นแบบชุดประจำชาติของสตรีไทยในปัจจุบัน
ห้องจัดแสดงที่ 3 – 4 “พระหัตถ์ที่ทรงงานเพื่อแผ่นดิน”
จัดแสดงประวัติความเป็นมาและต้นกำเนิดแห่งศูนย์ศิลปาชีพ
โดยแหล่งเรียนรู้นี้ เปิดทำการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 – 16.30 น. และสามารถเข้าชมได้ซึ่งมีค่าใช้จ่าย ดังนี้
ผู้ใหญ่ 150 บาท
ผู้สูงอายุ (อายุ 65 ปีขึ้นไป) 80 บาท
นักเรียน / นักศึกษา (โปรดแสดงบัตรประจำตัว) 50 บาท
เด็กอายุ 12 – 18 ปี 50 บาท
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ฟรี
และมีข้อปฏิบัติภายในพิพิธภัณฑ์ ดังรายละเอียดต่อไปนี้
1. ห้ามสูบบุหรี่
2. กรุณาฝากสัมภาระขนาดใหญ่ และร่ม ที่จุดรับฝาก
3. ถ่ายรูปได้เฉพาะบริเวณที่อนุญาตโดยไม่ใช้แฟลช
4. งดถ่ายวิดีโอหรือภาพเคลื่อนไหว ยกเว้นได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ
5. ห้ามนำเครื่องดื่มและอาหารเข้ามารับประทาน ยกเว้นจากร้านค้าภายในพิพิธภัณฑ์ และสามารถรับประทานได้ เฉพาะในพื้นที่ที่กำหนดไว้เท่านั้น
สถาบันผ้าทอมือหริภุญชัย
เป็นศูนย์การเรียนรู้ เรื่อง ผ้าทอมือหริภุญชัย เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการทอผ้าด้วยมือ และ การออกแบบลายผ้าทอมือ จัดโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 2 ตำบลต้นธง อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน โดยภายในจัดแสดงนิทรรศการ ดังนี้
1. ส่วนแสดงความเป็นมาของผ้าไหมยกดอกลำพูน และประวัติของเจ้าดารารัศมี ซึ่งเป็น ผู้คิดค้น และตัวอย่างการแต่งกายด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูน
2. ส่วนสาธิตวิธีการทอผ้า และจัดจำหน่ายผ้าไหมยกดอกลำพูน
3. ส่วนแสดงความเป็นมาของสถาบันผ้าทอมือหริภุญชัย
โดยแหล่งเรียนรู้นี้ เปิดทำการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น. และสามารถเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
พิพิธภัณฑ์ผ้า มหาวิทยาลัยนเรศวร
เป็นศูนย์การเรียนรู้ เกี่ยวกับผ้าทอและวิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์ต่าง ๆ ในภาคเหนือ เช่น ผ้าไทครั่ง ผ้าไททรงดำ ซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารเอนกประสงค์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก โดยเป็นพื้นที่จัดแสดงและให้ความรู้เกี่ยวกับงานสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทยจัดแสดงฉลองพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ พระราชทานแก่ มหาวิทยาลัยนเรศวร พิพิธภัณฑ์ผ้าจิตรลดา และ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์งานฝีมือจากแหล่งต่าง ๆ ภายในประเทศ รวมทั้งยังมีการหมุนเวียนนิทรรศการที่เกี่ยวข้องการสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทย โดยแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 2 ชั้น 5 นิทรรศการ ดังนี้
ชั้นที่ 1 ห้องจัดแสดงที่ 1 “ห้องนิทรรศการหมุนเวียน”
เป็นพื้นที่สำหรับจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนเกี่ยวกับสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม รวมถึงงานทางคหกรรมศาสตร์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น นิทรรศการ “ผ้าลายอย่าง ศิลปะบนผืนผ้าโบราณ” นิทรรศการ “ซัก รีด ร่ำ” ผ้าไทย (สูตรโบราณ) นิทรรศการ “กิจกรรมเส้นทางการเรียนรู้ตัดตุงเต่ารั้ง (พวงมโหตร)” และเป็นพื้นที่ในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ้าไทยและงานฝีมือจากแหล่งต่าง ๆ ในประเทศ และของที่ระลึกจากมหาวิทยาลัยนเรศวร
ชั้นที่ 2 ห้องจัดแสดงที่ 1 “ห้องพิพิธภัณฑ์ผ้าจิตรลดา”
จัดแสดงชุดฉลองพระองค์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผ้าทอยกลายโบราณ ผ้าไหมและผ้าฝ้ายจากโครงการจิตรลดา การแกะลวดลายของผ้าทอ เช่น ลายพิกุล ลายดอกแก้ว และจัดแสดงพื้นที่เครือข่ายส่งเสริมการทอผ้าในกลุ่มภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งเป็นความร่วมมือในการออกแบบลวดลายผ้า การพัฒนาลวดลายและสีในการทอผ้า รวมถึงการออกแบบ และการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากสิ่งทอพื้นเมือง
ชั้นที่ 2 ห้องจัดแสดงที่ 2 “ห้องพิพิธภัณฑ์ผ้าไทครั่ง”
จัดแสดงศิลปวัตถุประเภทสิ่งของเครื่องใช้ วัฒนธรรมการดำรงชีวิต ผ้าทอโบราณและผ้าทอสมัยใหม่ของกลุ่มไทครั่ง ซึ่งมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นโดยจะให้สีสันที่เข้ม ร้อนแรง และใช้สีตัดกัน ส่วนใหญ่จะเน้นที่สีแดงครั่งตัดกับสีเหลือง สีส้มหมากสุก สีคราม
ชั้นที่ 2 ห้องจัดแสดงที่ 3 “ห้องพิพิธภัณฑ์ผ้าไททรงดำ”
จัดแสดงศิลปวัตถุประเภทสิ่งของเครื่องใช้ วัฒนธรรมการดำรงชีวิต และผ้าของกลุ่ม ไททรงดำ สัมผัสเอกลักษณ์เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสีดำ พร้อมข้าวของเครื่องใช้ และหลากหลายพิธีกรรมความเชื่อของกลุ่มชนไททรงดำหรือไทดำ ลาวซ่งดำ ลาวโซ่ง
ชั้นที่ 2 ห้องจัดแสดงที่ 4 “นิทรรศการหมุนเวียน”
จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวข้องกับผ้าในมุมมองต่าง ๆ เช่น นิทรรศการ “ลาย” นิทรรศการ “ผ้ามัดย้อม” นิทรรศการ “ธรรมชาติศาสตร์แห่งสี”
โดยแหล่งเรียนรู้นี้ เปิดทำการวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 – 16.00 น. และสามารถเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ศูนย์ส่งเสริมผ้าไหมจังหวัดชัยภูมิ, ศูนย์ส่งเสริมผ้าไหมบ้านเขว้า
เป็นศูนย์การเรียนรู้ เกี่ยวกับผ้าไหมที่โดดเด่นของจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งเป็นการทอผ้าด้วยลวดลายต่าง ๆ โดยมีพื้นที่การจัดแสดงลวดลายผ้าไหมมัดหมี่ จำนวน 18 ลวดลายของชาวอำเภอบ้านเขว้า ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมที่แปรรูปเป็นเสื้อผ้า กระเป๋าถือ และของที่ระลึกแบบต่าง ๆ และแบบจำลองเครื่องมือที่ใช้ในการทอผ้าในทุกกระบวนการ ตั้งแต่ การเลี้ยงไหม การสาวไหม การกวักไหม การกรอไหม การมัดหมี่ การทอ ซึ่งตั้งอยู่ในเทศบาลตำบลบ้านเขว้า ตำบลบ้านเขว้า อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ
โดยแหล่งเรียนรู้นี้ เปิดทำการทุกวัน เวลา 08.30 – 16.30 น. และสามารถเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย แต่หากต้องการให้มีการสาธิตการทำไหม หรือต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ กรุณาติดต่อเพื่อขอเข้าชมล่วงหน้า
ศูนย์ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับผ้าและสิ่งถักทอไทยวน (บ้านเฮาเสาไห้)
เป็นศูนย์การเรียนรู้ เกี่ยวกับสิ่งทอและวัฒนธรรมสิ่งทอไทยวน แสดงวัสดุ – อุปกรณ์การทอผ้า สาธิตวิถีการทอผ้าของชาวไทยวน ซึ่งตั้งอยู่ที่เลขที่ 27/2 หมู่ที่ 1 ตำบลพระยาทด อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี
โดยแหล่งเรียนรู้นี้ เปิดทำการทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.30 – 16.30 น. และสามารถเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
พิพิธภัณฑ์ผ้าซิ่นตีนจกไท-ยวน ลับแล
เป็นพิพิธภัณฑ์ เกี่ยวกับผ้าซิ่นตีนจก ไท-ยวน แสดงวัสดุ – อุปกรณ์การทอผ้า สาธิตวิถีการทอผ้าของชาวไทยวน รวมทั้งจัดแสดงผ้าตีนจก ไทยวนในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น ผ้าผืน หมอน ซึ่งตั้งอยู่ที่กลุ่มทอผ้าบ้านคุ้ม-นาทะเล 31 หมู่ 4 ตำบลชัยจุมพล อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
โดยแหล่งเรียนรู้นี้ เปิดทำการทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น. และสามารถเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
พิพิธภัณฑ์ผ้าโบราณสบันงา
เป็นพิพิธภัณฑ์ เกี่ยวกับผ้าโบราณอายุนับร้อยปี เครื่องมือเครื่องใช้ในการทอผ้าของกลุ่มชนต่าง ๆ ของภาคเหนือ เครื่องประดับโบราณของชาวล้านนา ซึ่งเป็นวัฒนธรรมร่วมของประเทศพม่า ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านสีฟ้า ซอยโรงแรมธาริน อ.เมือง จ.เชียงใหม่
โดยแหล่งเรียนรู้นี้ เปิดทำการทุกวัน วันละ 3 รอบ เวลา 14.00 น. 15.00 น. และ 16.00 น. และมีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม ดังนี้
คนทั่วไป 200 บาท
นักเรียน / นักศึกษา / พระภิกษุ 100 บาท
ศูนย์การเรียนรู้ผ้าทอนาหมื่นศรี
เป็นศูนย์การเรียนรู้ เกี่ยวกับรัฐวิสาหกิจชุมชนและภูมิปัญญาผ้าทอพื้นบ้านของชาวนาหมื่นศรี โดยเป็นผ้าทอพื้นบ้านที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ เช่น ลายแก้วชิงดวง ลายลูกแก้ว ลายลูกแก้วผสมลายดอกจัน ซึ่งตั้งอยู่ที่ 119 หมู่ 8 ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง จังหวัดตรัง โดยแบ่งการจัดแสดงออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 เป็นโรงเรือนทอผ้าอยู่ด้านหน้าคอยต้อนรับแขกผู้มาเยือน โดยจัดแสดงพื้นที่สำหรับสาธิตการทอผ้าที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ของชาวนาหมื่นสี และทอด้วยกี่พื้นเมืองที่เรียกว่า “หูก” ซึ่งเป็นเครื่องมือพื้นบ้านที่ประดิษฐ์ขึ้นมาจากภูมิปัญญาชาวบ้าน
ส่วนที่ 2 เป็นร้านค้าผลิตภัณฑ์ชุมชนข้าวของเครื่องใช้จากผ้าทอหลากหลายรูปแบบ
ส่วนที่ 3 เป็นพื้นที่แสดงความสวยงามของผ้าทอมือที่ผสานกับงานออกแบบสมัยใหม่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นต้นแบบของศูนย์การเรียนรู้การอนุรักษ์เชิงวัฒนธรรม
โดยแหล่งเรียนรู้นี้ เปิดทำการทุกวัน เวลา 08.30 – 17.30 น. และสามารถเข้าชมได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
THAI FABRIC WISDOM มรดกภูมิปัญญาผ้าไทย
เป็นแหล่งเรียนรู้ประเภทเว็บไซต์ เกี่ยวกับมรดกภูมิปัญญาของผ้าไทย และพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่มีต่อวงการสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของไทย จัดทำขึ้นโดยสำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม โดยแบ่งพื้นที่การเรียนรู้ออกเป็น 5 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 หน้าหลัก โดยมีรายการย่อย 4 รายการ ดังนี้
1. พระราชปณิธาน ซึ่งเป็นเมนูลัดสำหรับเข้าชมรายละเอียดที่เกี่ยวกับพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
2. คลังผ้าและลวดลาย : คลังผ้าไทย 76 จังหวัด ซึ่งเป็นเมนูลัดสำหรับเข้าชมรายละเอียดเกี่ยวกับผ้าทอมือหรือลวดลายของผ้าทั้ง 76 จังหวัด
3. คลังรูปภาพ ซึ่งเป็นเมนูลัดสำหรับเข้าชมรายละเอียดเกี่ยวกับรูปภาพที่แสดงตัวอย่างผ้าในประเทศไทย
4. แถบเมนูซึ่งเป็นทางลัดไปยังส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ รวมทั้งแสดงหัวข้อที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับงานทางด้านสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม
ส่วนที่ 2 แสดงพระราชปณิธานของพระพันปี โดยมีรายการย่อย 3 รายการ ดังนี้
1. พระราชปณิธาน โดยแสดงพระราชดำรัส พระราชทานในพิธีเปิดงาน
"มรดกสิ่งทอของเอเชีย: หัตถกรรมและอุตสาหกรรม" เมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2535
2. ไทยพระราชนิยม โดยแสดงภาพชุดไทยพระราชนิยมทั้ง 8 ชุด พร้อมคำอธิบายถึงประวัติความเป็นมา รูปแบบการสวมใส่หรือใช้งาน และวิธีการออกแบบและตัดเย็บ
3. รางวัลนานาประเทศ แสดงรายละเอียดรางวัลที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้รับจากองค์กรนานาชาติ
ส่วนที่ 3 แสดงคลังผ้าไทย โดยมีรายการย่อย 3 รายการ ดังนี้
1. คลังผ้าและลวดลาย โดยแสดงคลิปวิดีโอลวดลายผ้าของจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งแสดงรายละเอียดของชื่อผ้า ชื่อจังหวัด ลักษณะทางกายภาพ และสัญลักษณ์การดูแลรักษาผ้า และเมื่อกดที่ชื่อผ้าจะแสดงข้อมูลเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับผ้านั้น ๆ ในประเด็นความสำคัญ ความเป็นมา ภูมิภาค จังหวัด วิธีการผลิต ลักษณะเด่น (รูปภาพของผืนผ้า) รูปแบบการทอ ข้อมูลผู้ประกอบการ และ QR code ที่ตั้งของสถานที่ผลิต
นอกจากนั้นแถบด้านบนเป็นส่วนของทางลัดสำหรับการค้นหา ซึ่งจะมี 3 ช่องทาง คือ 1) จังหวัด 2) เทคนิคการทอ และ 3) ชื่อลายผ้า
2. ความรู้ โดยแสดงความรู้ที่เกี่ยวข้องกับงานด้านสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งมีทั้งหมด 5 หัวข้อ ดังนี้
1. ประเภทของผ้าไทย ซึ่งแสดงประเภทของผ้าไทย จำนวน 6 ประเภท ได้แก่ ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ผ้ามัดหมี่ ผ้าลายน้ำไหล ผ้าขิด ผ้าจก ผ้าแพรวา และผ้าม่อฮ่อม หรือผ้าฮ่อม โดยแสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้อง และลักษณะทางกายภาพของผ้าประเภทนั้น ๆ
2. นวัตกรรมผ้าไทยในปัจจุบัน แสดงข้อมูลเกี่ยวกับนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับผ้าไทยในปัจจุบัน โดยแสดงข้อมูลของไหมอีรี่ (Eri Silk) ผ้าไหมกลุ่มทอยก อยุธยา มีคุณสมบัติทำความสะอาดตัวเองได้ และผ้าไหมยีนส์
3. การเลือกใช้ เลือกใส่ผ้าไทย ให้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้ผ้าไทยในการสวมใส่ในชีวิตประจำวัน โดยแสดงความรู้ 3 หัวข้อ คือ 1) การเลือกชนิดผ้าสำหรับการสวมใส่ในโอกาสต่าง ๆ 2) การเลือกลวดลายเพื่อให้เหมาะสมกับบุคลิกภาพและแก้ไขปัญหารูปร่าง และ 3) การเลือกสีเพื่อให้เหมาะสมกับบุคลิกภาพ
4. การดูแลรักษา ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษาผ้าตั้งแต่ต้นจนจบ โดยแสดงความรู้ 3 หัวข้อ คือ 1) การปรับสภาพผ้าก่อนตัดเย็บ 2) การทำความสะอาด 3) การรีด และ 4) การเก็บรักษา
5. พิพิธภัณฑ์ผ้าไทย โดยแสดงพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงความรู้เกี่ยวกับผ้าในประเทศไทย ซึ่งแสดงชื่อพิพิธภัณฑ์ ข้อมูลรายละเอียดของพิพิธภัณฑ์ และลักษณะทางกายภาพของพิพิธภัณฑ์ นอกจากนั้นแถบด้านบนเป็นส่วนของทางลัดสำหรับการค้นหา ซึ่งจะมี 3 ช่องทาง คือ 1) ภูมิภาค 2) จังหวัด และ 3) ส่วนพื้นที่การพิมพ์ตามความต้องการในการค้นหา
3. พิพิธภัณฑ์ผ้าไทย ซึ่งแสดงข้อมูลเดียวกันกับส่วนของความรู้
ส่วนที่ 4 แสดงแกลเลอรี่ โดยมีรายการย่อย 2 รายการ ดังนี้
1. รูปภาพ แสดงรูปภาพของผ้าไทยที่เป็นผืนผ้า หรือนำไปผลิตเป็นเครื่องแต่งกาย
2. วิดีโอ แสดงวิดีโอที่สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาในการผลิต กรรมวิธีในการผลิต และลักษณะทางกายภาพของผ้าไทยชนิดต่าง ๆ
ส่วนที่ 5 แสดงเกี่ยวกับ ซึ่งเป็นการบอกถึงรายละเอียดขององค์กรที่ดำเนินการผลิตและดูแลแหล่งเรียนรู้นี้ คือ สำนักงานปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ตั้งอยู่ที่เลขที่ 10 ถนนเทียมร่วมมิตร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง จังหวัดกรุงเทพมหานคร รวมทั้งช่องทางการติดต่อในรูปแบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์
งานประดิษฐ์สร้างสรรค์
พิพิธภัณฑ์วังสวนผักกาด : Suan Pakkad Palace Museum
เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ เกี่ยวกับโบราณวัตถุและสถาปัตยกรรมที่ทรงคุณค่าของประเทศไทย เกิดจากการตระหนักถึงความสำคัญของการศึกษาและคุณค่าของศิลปวัฒนธรรม ซึ่งตั้งอยู่ที่เลขที่ 352 – 354 วังสวนผักกาด ถนนศรีอยุธยา เขตราชเทวี จังหวัดกรุงเทพฯ โดยแบ่งส่วนการจัดแสดงออกเป็น 10 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 เรือนไทยหลังที่ 1 แสดงภาพเขียนสีน้ำมันของรัชกาลที่ 5 อาวุธโบราณสมัยอยุธยา และปราสาทจำลองแสดงพระพุทธรูปในสมัยอดีต
ส่วนที่ 2 เรือนไทยหลังที่ 2 แสดงห้องนอน และของใช้ประจำพระองค์ของทูลกระหม่อมบริพัตรและเสด็จในกรมฯ
ส่วนที่ 3 เรือนไทยหลังที่ 3 แสดงห้องรับแขก ศิลปหัตถกรรมของคนไทยในสมัยโบราณ เครื่องเบญจรงค์ ซึ่งเป็นมรดกวัฒนธรรมของชาติ และการจำลองเครื่องดนตรีไทยในรูปแบบของจิ๋ว
ส่วนที่ 4 เรือนไทยหลังที่ 4 แสดงโบราณวัตถุและศิลปวัตถุ อาทิ พระพุทธรูปสำริดชุปทองปางลีลา ศิลปะสุโขทัย งาช้างแกะสลักพระบฏแสดงพุทธประวัติสมัยรัตนโกสินทร์
ส่วนที่ 5 เรือนไทยหลังที่ 5 แสดงโบราณวัตถุของ "วัฒนธรรมบ้างเชียง" สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ซึ่งขุดพบที่ จ.อุดรธานี อาทิ ภาชนะดินเผา เขียนสีแดง สร้อยลูกปัด หัวขวาน หัวธนู
ส่วนที่ 6 เรือนไทยหลังที่ 6 แสดงพิพิธัณฑ์โขน จัดแสดงหัวโขนต่าง ๆ จากเรื่องรามเกียรติ์ ซึ่งมีขนาดเท่าของจริง เครื่องแต่งกาย ขั้นตอนการทำหัวโขน หุ่นละครเล็กพระรามกับนางสีดาและทศกัณฑ์กับหนุมาน ของนายสาคร ยังเขียวสด ศิลปินแห่งชาติปี 2539 สาขาศิลปะการแสดง
ส่วนที่ 7 เรือนไทยหลังที่ 7 แสดงเครื่องถ้วยชามสังคโลก ศิลปะสุโขทัย และอยุธยา
ส่วนที่ 8 เรือนไทยหลังที่ 8 แสดงเครื่องแก้วต่าง ๆ ซึ่งเป็นของใช้ประจำพระองค์ของทูลกระหม่อมบริพัตรและเสด็จในกรมฯ
ส่วนที่ 9 แสดงหอเขียน ถือเป็นสถาปัตยกรรมชิ้นเอกของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ภาพลายรดน้ำลงรักปิดทอง เป็นเรื่องราวพุทธประวัติ รามเกียรติ์ และเหตุการณ์ที่พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ส่งราชทูต ฝรั่งเศสเข้ามาเจริญสัมพันธ์ไมตรี ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ส่วนที่ 10 แสดงเรือนพระที่นั่งเก้ากึ่งพยาม เดิมเป็นเรือนพระที่นั่งคราวเสด็จประพาสต้น ต่อมาพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานแก่ทูลกระหม่อมบริพัตร
โดยแหล่งเรียนรู้นี้ เปิดทำการทุกวัน เวลา 09.00 – 16.00 น. และมีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม ดังนี้
คนไทย 50 บาท
ชาวต่างชาติ 100 บาท
นักเรียน / นักศึกษา (โปรดแสดงบัตรประจำตัว) 20 บาท
พิพิธภัณฑ์สังคโลก
เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ เกี่ยวกับเครื่องสังคโลกสมัยสุโขทัย พระพุทธรูป และเครื่องมือเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อแสดงภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริงของคนสุโขทัยในสมัยโบราณ ตั้งอยู่ที่ เมืองเอกพลาซ่า เลขที่ 10 หมู่ 4 ถ.บายพาส ตำบลบ้านหลุม อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย
โดยแหล่งเรียนรู้นี้ เปิดทำการทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น. และมีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม ดังนี้
คนไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 20 บาท
นักเรียน / นักศึกษาในเครื่องแบบ 20 บาท
ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 20 บาท
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง
เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ เกี่ยวกับมรดกโลกบ้านเชียง จัดแสดงหลักฐานต่าง ๆ ที่ได้จากการสำรวจและขุดค้นแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงและแหล่งโบราณคดีอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งแสดงถึงร่องรอยการอยู่อาศัยของคนสมัยก่อนประวัติศาสตร์อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายพันปี โดยจัดแสดงในอาคารพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติและในลักษณะพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งที่หลุมขุดค้นวัดโพธิ์ศรีใน ตลอดจนจัดแสดงเรือนไทพวน เพื่อเป็นการอนุรักษ์อาคารของชุมชนไทพวน ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 13 ตำบลบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี
โดยแหล่งเรียนรู้นี้ เปิดทำการทุกวันพุธ - วันอาทิตย์ เวลา 09.00 – 16.00 น. และมีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม ดังนี้
คนไทย 30 บาท
นักเรียน นักศึกษาในเครื่องแบบ ภิกษุ สามเณร ไม่เสียค่าธรรมเนียมการเข้าชม
ชาวต่างชาติ 150 บาท
พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี
เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมและการเรียนรู้ด้านเซรามิคและศิลปะ แร่ดินขาวและการก่อตั้งโรงงานเซรามิกแห่งแรกของลำปาง ซึ่งตั้งอยู่ที่เลขที่ 32 ถนนวัดจองคํา พระบาท ซอย 1 ต.พระบาท อำเภอเมืองลําปาง จังหวัดลําปาง โดยแบ่งส่วนการจัดแสดงออกเป็น 4 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 แสดงนิทรรศการการเล่าประวัติความเป็นมาของ อาปาอี้ (ซิมหยู แซ่ฉิน) ผุ้ก่อตั้งโรงงานเซรามิกแห่งแรกของจังหวัดลำปาง การใช้ชีวิตครอบครัวในไทย การก่อตั้งโรงงาน ก้อนหินลับมีดดินขาวจุดเริ่มต้นการตั้งโรงงานร่วมสามัคคี (ตำนานชามตราไก่ลำปาง) จัดแสดงห้องครัวโบราณผสมผสานกันระหว่างวัฒนธรรมจีนกับวัฒนธรรมเมืองเหนือของครอบครัว และการบอกเล่าขั้นตอนในการสร้างอนุสาวรีย์อาปาอี้ (หนึ่งเดียวในไทย) กับคณะผู้สร้าง และไก่ส้ม (มาสคอส ประจำพิพิธภัณฑ์ฯ)
ส่วนที่ 2 แสดงนิทรรศการชามไก่ เล่าประวัติความเป็นมาและเหตุการณ์ของชามตราไก่ในแต่ละยุค ภาพแสดงการทำชามตราไก่แบบโบราณ ชามตราไก่รุ่นเก่าในยุคต่าง ๆ ลักษณะพิเศษของชามไก่แบบโบราณ
ส่วนที่ 3 แสดงนิทรรศการสาธิตขั้นตอนการผลิตชามโบราณแบบปั้นมือ การผลิตชามไก่ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย การวาดภาพ ลงสี การวาดลวดลายแบบดั้งเดิม พร้อมทั้งดูกระบวนการผลิตเซรามิกสมัยใหม่ยุคปัจจุบันควบคู่กันไป ชมเตามังกรโบราณที่สร้างในปี พ.ศ. 2508 สามารถเผาชามไก่ได้ถึง 5,000-8,000 ใบ/ครั้ง
ส่วนที่ 4 แสดงนิทรรศการแสดงผลิตภัณฑ์ของโรงงานยุคเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน แบรนด์สินค้าที่ส่งจำหน่ายภายในประเทศและต่างประเทศ รางวัลเกียรติยศที่ได้รับต่าง ๆ ผลงานการวาดชามไก่ของศิลปินแห่งชาติ ตลอดจน “ขลุ่ยเซรามิก” ผลิตจากดินขาวลำปาง
โดยแหล่งเรียนรู้นี้ เปิดทำการทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00 น. และมีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม ดังนี้
คนไทย 60 บาท
นักเรียน นักศึกษา 30 บาท
ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 60 บาท
ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป นักบวช ผู้พิการ ไม่เสียค่าธรรมเนียมการเข้าชม
ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ
เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ เกี่ยวกับวิถีชีวิตท้องถิ่นและภูมิปัญญา ซึ่งตั้งอยู่ที่เลขที่ 59 หมู่ 4 ต.ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา โดยแบ่งส่วนการจัดแสดงออกเป็น 6 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 แสดงหอเกียรติยศ จัดแสดงประวัติและผลงานของบุคคลผู้ได้รับการเชิดชูเกียรติจาก SACICT ในฐานะครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม และทายาทช่างศิลปหัตถกรรม
ส่วนที่ 2 แสดงหอศิลปาชีพ จัดแสดงนิทรรศการ “คู่พระบารมี” บอกเล่าเรื่องราวของจุดเริ่มต้นของ “มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” การดำเนินงานและผลงานของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ และการดำเนินงานศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ
ส่วนที่ 3 แสดงหอหัตถศิลป์ระหว่างประเทศ จัดแสดงนิทรรศการ “หัตถกรรมที่ใกล้สูญหาย” โดยแบ่งประเภทงานศิลปหัตถกรรมออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ งานเครื่องมุก งานเครื่องไม้ และงานจักสาน
ส่วนที่ 4 แสดงหอสุพรรณ-พัสตร์ จัดแสดงนิทรรศการ “เครื่องเงิน-เครื่องทอง และเครื่องแต่งกายในสมัยอยุธยา”
ส่วนที่ 5 แสดงหอนวัตศิลป์ พื้นที่จัดแสดงงานศิลปหัตถกรรมที่ SACICT ศึกษา รวบรวม และวิเคราะห์แนวโน้มเพื่อเป็นต้นทางในการพัฒนางานหัตถศิลป์และนวัตศิลป์ในมิติต่าง ๆ
ส่วนที่ 6 แสดงนิทรรศการ “ยืนเครื่องโขน : ศาสตร์สร้างศิลป์ มรดกแผ่นดินร่วมวัฒนธรรม”นำเสนอเรื่องราวความเป็นมาของการแสดงโขนในประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยแหล่งเรียนรู้นี้ เปิดทำการทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น. ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
พิพิธภัณฑ์บัว
เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ เกี่ยวกับดอกบัว ซึ่งถือเป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์บัว เพื่อการเรียนรู้ ศึกษา วิจัย การใช้ประโยชน์ด้านต่าง ๆ จากบัว และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิญอนุรักษ์ ตั้งอยู่ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เลขที่ 39 หมู่ 1 ถนนรังสิต-นครนายก ตำบลคลองหก อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
โดยแหล่งเรียนรู้นี้ เปิดทำการทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 08.00 – 15.00 น. ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้
เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ เกี่ยวกับวัฒนธรรมดอกไม้ในแต่ละประเทศ หนังสือ และ/หรือ ตำราการจัดดอกไม้ในวัฒนธรรมต่าง ๆ งานดอกไม้สดของไทย และการประดิษฐ์ดอกไม้ในงานพิธี ประเพณีต่าง ๆ ของประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ที่เลขที่ 315 ซอยสามเสน 28 ซอยแยกองครักษ์ 13 ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต จังหวัดกรุงเทพ
โดยแหล่งเรียนรู้นี้ เปิดทำการทุกวัน ยกเว้นวันจันทร์ เวลา 10.00 – 18.00 น. ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม ราคา 150 บาท
มนุษย์และครอบครัว
พิพิธภัณฑ์วางแผนครอบครัว
เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ เกี่ยวกับการวางแผนครอบครัว ประชากรและอนามัยการเจริญพันธุ์ ความเป็นมาของการวางแผนครอบครัว กายวิภาคและสรีรวิทยาของหญิงและชาย ความรู้ทางด้านเพศศึกษา ตลอดจนกระบวนการปฏิสนธิและวิธีการคุมกำเนิด ตั้งอยู่ที่กองอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี
โดยแหล่งเรียนรู้นี้ เปิดทำการทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.30 – 15.00 น. และไม่มีค่าใช้จ่ายในการเข้าชม
บ้านและที่อยู่อาศัย
Maeban - แม่บ้าน
เป็นแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ โดยรวบรวมความรู้เกี่ยวกับการดำรงชีวิตประจำวันในบ้าน ซึ่งนำเสนอความรู้ในรูปแบบบทความ ภาพ สื่อมัลติมีเดียที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตในบ้าน จัดทำขึ้นโดยบริษัท แม่บ้าน จำกัด แบ่งพื้นที่การเรียนรู้ออกเป็น 5 ส่วน ดังนี้
1. บทความแนะนำ รวบรวมบทความทางด้านอาหาร และเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีวิตภายในบ้าน เช่น เทคนิคการประกอบอาหารต่าง ๆ การเปรียบเทียบความแตกต่างของอาหาร
2. สูตรอาหาร รวบรวมสูตรอาหารต่าง ๆ โดยอธิบายความเป็นมา ลักษณะทางกายภาพ วัตถุดิบหรือส่วนผสม วิธีการหรือขั้นตอนการทำ และเทคนิคในการประกอบอาหาร
3. แม่บ้าน Market รวบรวมแหล่งจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาหาร และ การดำรงชีวิตภายในบ้าน เช่น หนังสือ
4. ข่าวสารและกิจกรรม รวบรวมข่าวสารและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาหาร การท่องเที่ยว และการดำรงชีวิตภายในบ้าน
5. สาระน่ารู้ รวบรวมเกร็ดความรู้ที่เกี่ยวข้องกับการประกอบอาหาร โภชนาการสุขภาพ และการดำรงชีวิตภายในบ้านผ่านบทความต่าง ๆ
bottom of page